ในสถานประกอบการทุกแห่งที่มีความเสี่ยงทางด้านความปลอดภัย การสร้างระบบความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องคำนึงถึงอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงงานหรือสถานที่ที่มีเครื่องจักรอันตรายหรือสารเคมีที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ การดำเนินการ Safety Patrol หรือการตรวจตราความปลอดภัย เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันอุบัติเหตุจากการทำงาน การจัดตั้งทีม Safety Patrol ในสถานประกอบการจึงเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการรักษาความปลอดภัยของพนักงานและการทำงานในระยะยาว
Safety Patrol คือ อะไร?
Safety Patrol คือ กระบวนการตรวจสอบสภาพแวดล้อมการทำงานในสถานประกอบการเพื่อหาจุดเสี่ยงที่อาจเกิดอุบัติเหตุหรืออันตราย โดยการทำ Safety Patrol จะมีการตรวจสอบพื้นที่ต่าง ๆ เช่น เครื่องจักร อุปกรณ์ทำงาน พื้นที่ที่มีการเก็บสารเคมี หรือบริเวณที่เสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุจากไฟไหม้หรือการลื่นล้ม
เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบจะเดินตรวจตามจุดต่าง ๆ และบันทึกผลการตรวจสอบในแต่ละรอบ เพื่อรายงานให้กับผู้บังคับบัญชาหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขหรือป้องกันต่อไป
การทำ Safety Patrol นั้นไม่ใช่แค่การตรวจสอบแบบธรรมดา แต่มักมีการกำหนดมาตรฐานหรือรูปแบบในการตรวจสอบอย่างเป็นระบบ ซึ่งต้องคำนึงถึงการป้องกันความเสี่ยง ที่อาจเกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมหรือเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงาน
บทบาทของ Safety Patrol
Safety Patrol มีบทบาทสำคัญในการช่วยป้องกันอุบัติเหตุในสถานที่ทำงาน เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน หรือ ที่เราเรียกว่า จป. สามารถค้นหาจุดเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้เร็วขึ้น เช่น การรั่วไหลของสารเคมีที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของพนักงาน การเกิดอันตรายจากเครื่องจักรที่ไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง หรือแม้แต่สภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงจากไฟไหม้หรือการลื่นล้ม
การทำ Safety Patrol ยังเป็นเครื่องมือในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กร การตรวจสอบเป็นระยะช่วยให้พนักงานในองค์กรมีความตระหนักถึงการปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย การมีทีมที่ทำหน้าที่ Safety Patrol ในทุกสถานประกอบการสามารถช่วยลดความเสี่ยงและสร้างความมั่นใจให้กับพนักงานว่าพวกเขาทำงานในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
จป หรือ เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานเป็น ผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในการทำงานขององค์กร เพื่อให้องค์กรมีมาตรฐานความปลอดภัยตามกฎหมาย หรือมาตรฐานที่กำหนด โดย จป บางตำแหน่งสามารถเป็นได้โดยการอบรม อย่าง จป หัวหน้างานสามารถสมัครอบรม ที่ศูนย์ฝึกอบรมที่ได้รับอนุญาตจัดสอนได้แล้ววันนี้ >> จป หัวหน้างาน ใบเซอร์
การดำเนินการ Safety Patrol มีอะไรบ้าง
การดำเนินการ Safety Patrol ไม่ได้มีแค่การเดินตรวจแต่ละจุดเท่านั้น แต่ยังต้องมีการบันทึกข้อมูลและรายงานการตรวจสอบ เพื่อให้การแก้ไขหรือปรับปรุงสามารถทำได้ทันที การตรวจสอบอาจครอบคลุมหลายส่วน ดังนี้
1. ตรวจสอบเครื่องจักรและอุปกรณ์
-
- การตรวจสอบความปลอดภัยของเครื่องจักรที่มีความเสี่ยงสูง เช่น การตรวจสอบว่ามีอุปกรณ์ป้องกันที่จำเป็นหรือไม่ หรือเครื่องจักรทำงานผิดปกติหรือไม่
2. ตรวจสอบพื้นที่ทำงาน
-
- พื้นที่ที่ทำงานต้องไม่มีอุปสรรคหรือขยะที่อาจทำให้เกิดอันตราย หรือพื้นที่ที่อาจลื่นล้มได้
3. ตรวจสอบการเก็บสารเคมี
-
- การเก็บสารเคมีอันตรายต้องเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย เช่น การเก็บในภาชนะที่เหมาะสมและการติดป้ายเตือนที่ชัดเจน
4. ตรวจสอบระบบป้องกันอัคคีภัย
-
- พื้นที่ทำงานต้องมีระบบป้องกันอัคคีภัยที่มีประสิทธิภาพ เช่น การตรวจสอบอุปกรณ์ดับเพลิงและทางออกฉุกเฉิน
ความถี่ในการทำ Safety Patrol: บ่อยแค่ไหน?
การทำ Safety Patrol เป็นกิจกรรมที่ไม่สามารถดำเนินการแบบครั้งเดียวแล้วจบ เพราะสถานการณ์ความปลอดภัยในสถานที่ทำงานมักมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้น ความถี่ในการทำ Safety Patrol จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การตรวจสอบความปลอดภัยมีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกมิติของความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยปกติแล้ว จะแบ่งเป็น daily safety patrol weekly safety patrol และ monthly safety patrol
- อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : รูปแบบ กิจกรรม safety patrol
ความถี่ที่เหมาะสมในการทำ Safety Patrol จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยดังนี้:
1. ประเภทของสถานที่ทำงาน
-
- ในสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น โรงงานที่ใช้เครื่องจักรหนักหรือสารเคมีอันตราย การทำ Safety Patrol ควรเกิดขึ้นบ่อยขึ้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการใช้งานเครื่องจักรหรือสารเคมีที่ไม่ปลอดภัย การตรวจสอบอาจทำได้ทุกวันหรือตามรอบเวลาที่กำหนด
- สำหรับสถานที่ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า เช่น สำนักงาน การทำ Safety Patrol อาจทำได้ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์หรืออาจเป็นรายเดือนขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมการทำงาน
2. ลักษณะของกิจกรรมที่ทำ
-
- หากกิจกรรมในสถานประกอบการมีลักษณะที่ต้องใช้เครื่องจักรหรือการจัดการกับสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดอันตรายหรือเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย การทำ Safety Patrol ควรมีความถี่สูง เช่น การตรวจสอบระบบเครื่องจักรควรทำหลายครั้งในแต่ละวันเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการเกิดปัญหาหรือความเสี่ยงที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุ
- สำหรับกิจกรรมที่ไม่มีความเสี่ยงสูงมาก เช่น การทำงานในสำนักงานหรือสถานที่ทำงานที่ไม่มีกิจกรรมเสี่ยงมากนัก การทำ Safety Patrol อาจลดความถี่ลง แต่ควรทำอย่างน้อยเดือนละครั้งเพื่อการตรวจสอบพื้นฐาน
3. ระดับความเสี่ยงของอุบัติเหตุ
-
- หากมีการประเมินว่าในพื้นที่ทำงานมีความเสี่ยงที่อาจเกิดอุบัติเหตุรุนแรง เช่น ไฟไหม้หรือสารเคมีรั่วไหล การทำ Safety Patrol ควรทำเป็นระยะ ๆ อย่างถี่ถ้วน เช่น ทุกวันในช่วงเวลาทำงาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น
- การประเมินความเสี่ยงจากการทำงานสามารถใช้เครื่องมือที่เหมาะสม เช่น การประเมินจากข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติเหตุในองค์กรก่อนหน้านี้ หรือการประเมินจากปัจจัยภายนอก เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศหรือการเปลี่ยนแปลงการทำงานที่อาจเพิ่มความเสี่ยง
4. การตอบสนองต่อปัญหาหรือเหตุการณ์ฉุกเฉิน
-
- หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือมีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับปัญหาความปลอดภัย เช่น การตรวจพบความผิดปกติในเครื่องจักรหรืออุปกรณ์การทำงาน ควรมีการทำ Safety Patrol เพิ่มเติมในช่วงเวลานั้นเพื่อทำการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาทันที
- ในกรณีที่พบปัญหาหรือความเสี่ยงที่ร้ายแรง การทำ Safety Patrol ควรทำอย่างต่อเนื่องและบ่อยขึ้นจนกว่าจะมั่นใจว่าปัญหาถูกจัดการอย่างครบถ้วน
ข้อแนะนำในการกำหนดความถี่
- กำหนดรอบเวลาที่ชัดเจน: ควรกำหนดรอบการตรวจสอบอย่างชัดเจน เช่น การตรวจสอบรายวันหรือรายสัปดาห์ โดยขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงของสถานประกอบการแต่ละแห่ง
- การทำ Safety Patrol แบบสุ่ม: นอกจากการกำหนดเวลาที่ชัดเจนแล้ว การทำ Safety Patrol แบบสุ่มก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้การตรวจสอบมีความครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ
- การใช้เทคโนโลยีในการช่วยตรวจสอบ: ในบางกรณี การใช้เทคโนโลยีช่วยในการตรวจสอบ เช่น ระบบตรวจจับความร้อน เครื่องมือวัดการสั่นสะเทือน หรือการใช้กล้องวงจรปิด สามารถช่วยในการตรวจสอบสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูงและลดความถี่ในการเดินตรวจที่ไม่จำเป็น
- การฝึกอบรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ: การฝึกอบรมทีม Safety Patrol อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้พวกเขามีความชำนาญในการตรวจสอบและสามารถระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้เร็วขึ้น ซึ่งจะทำให้สามารถเพิ่มหรือลดความถี่ในการตรวจสอบได้อย่างเหมาะสม
ทีม Safety Patrol และการฝึกอบรม
ทีม Safety Patrol มักจะประกอบด้วยบุคลากรที่มีความรู้และทักษะในการประเมินสถานการณ์ความเสี่ยง และสามารถใช้เครื่องมือในการตรวจสอบความปลอดภัยได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ยังต้องได้รับการฝึกอบรมอย่างเหมาะสม เช่น การตรวจสอบเครื่องจักร การใช้เครื่องมือวัดความปลอดภัย หรือการจัดการกับเหตุการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ การฝึกอบรมเหล่านี้จะช่วยให้ทีม Safety Patrol สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในสถานที่ทำงานได้
ความสำคัญของ Safety Patrol ต่อการบริหารความเสี่ยง
การมีระบบ Safety Patrol เป็นส่วนสำคัญของการบริหารความเสี่ยงในองค์กร เนื่องจากการตรวจสอบที่เป็นระยะจะช่วยให้ผู้บริหารและทีมงานสามารถรับรู้ถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและสามารถดำเนินการป้องกันได้ทันท่วงที ซึ่งจะช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุในที่ทำงาน
นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กร การที่พนักงานทุกคนเห็นว่ามีการตรวจสอบและดำเนินการเพื่อความปลอดภัยอย่างจริงจัง จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับพนักงานและทำให้การปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการทำงานในองค์กร
สรุป
การทำ Safety Patrol เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการตรวจสอบความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน โดยเฉพาะในองค์กรที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุและส่งเสริมให้พนักงานมีความตระหนักถึงความปลอดภัยมากขึ้น การฝึกอบรมทีม Safety Patrol ให้มีทักษะในการประเมินความเสี่ยงและใช้เครื่องมือที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้การตรวจสอบมีประสิทธิภาพและสามารถป้องกันความเสี่ยงได้ทันท่วงที
บทความที่น่าสนใจ
- สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุมีอะไรบ้าง
- Lockout/Tagout (LOTO) การป้องกันอันตรายจากเครื่องจักรหมุน
- วิธีเลือกเครื่องสูบน้ำดับเพลิง ให้เหมาะกับสำหรับอาคาร
- จป. กับการจัดการสารเคมีในที่ทำงาน ตามมาตรฐาน